การทำทรีทเม้นต์ที่ร้านทำผมช่วยบำรุงผมได้นานแค่ไหนกันนะ

การทำทรีทเม้นต์ที่ร้านทำผมช่วยบำรุงผมได้นานแค่ไหน

การทำทรีทเม้นต์ที่ร้านทำผมอย่างสม่ำเสมอนั้นมีผลช่วยให้เส้นผมแข็งแรงเงางามมากกว่าซื้อทรีทเม้นต์ทั่วไปมาทำเองที่บ้าน ทั้งนี้เพราะว่าการทำทรีทเม้นต์ที่ร้านทำผมแตกต่างจากการทำทรีทเม้นต์เองด้วยผลิตภัณฑ์วางขายตามท้องตลาดตรงที่จะต้องใช้เวลาให้ในการทำสารอาหารกลับคืนสู่ภายในเส้นผมและเติมความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมด้วย โดยที่ร้านทำผมจะใช้ทรีทเม้นต์เฉพาะที่มีคุณภาพสูงบรรจงนวดลงไปบนเส้นผม ทำให้หลายคนรู้สึกว่าผมนุ่มสลวยขึ้นในทันทีหลังจากทำทรีทเม้นต์เสร็จ

ปกติแล้วการทำทรีทเม้นต์ที่ร้านทำผมจะมีประสิทธิภาพบำรุงผมอยู่ได้ประมาณ 3 สัปดาห์ถึง 1 เดือน ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปตามสภาพผมหรือการทำสีผมของแต่ละคน โดยที่อย่างเร็วที่สุดประมาณ 1-2 สัปดาห์ บางคนอาจจะรู้สึกว่าไม่นานเท่าไหร่ แต่ทรีทเม้นต์ที่ร้านทำผมใช้ก็มีหลายแบบหลายประเภท และแต่ละแบบก็มีระยะเวลาการคงประสิทธิภาพแตกต่างกันไป ซึ่งการยืดเวลาการบำรุงของทรีทเม้นต์นั้นก็ขึ้นอยู่กับการดูแลเส้นผมหลังการทำทรีทเม้นต์ที่ร้านทำผมของเรา

สาเหตุที่ทำให้ระยะเวลาในการบำรุงผมของทรีทเม้นต์แตกต่างกัน
แม้ว่าจะทำทรีทเม้นต์จากร้านทำผมแล้ว แต่รังสียูวี, อากาศข้างนอก รวมถึงการสระผมเองที่บ้านก็ล้วนแต่ทำให้ผมของเราเสียอย่างช้า ๆ ได้ และให้สารอาหารส่งไปไม่ค่อยถึงเส้นผม นอกจากนี้สาเหตุหลักจากภายในอย่างเช่นความเครียด, การใช้ชีวิตประจำวันที่ผิด ๆ หรือไม่ดีต่อสุขภาพก็ส่งผลเสียต่อเส้นผมเช่นกัน ทำให้เส้นผมสวย ๆ ของเราสูญเสียความนุ่มสลวยเงางามไปในที่สุด นอกจากนี้คนที่มีปัญหาเรื่องผม ไม่ว่าจะเป็นผมแตกปลาย, ผมบาง, ผมฉีกขาดง่าย ก็จะส่งผลต่อระยะเวลาประสิทธิภาพของทรีทเม้นต์ด้วยเช่นกัน

วิธีการคงประสิทธิภาพของทรีทเม้นต์ให้อยู่ได้ยาวนาน

วิธีการคงประสิทธิภาพของทรีทเม้นต์ให้อยู่ได้ยาวนานนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการหมั่นใช้โฮมแคร์ เริ่มต้นจากการสระผมให้สะอาด และเลือกใช้แชมพูของทางร้านทำผมที่ช่วยฟื้นฟูผมเสียแทนแชมพูที่วางขายทั่วไปตามท้องตลาด จากนั้นให้ทำทรีทเม้นต์ที่บ้านสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งวิธีการหนึ่งก็คือการซื้อทรีทเม้นต์ที่วางจำหน่ายที่ร้านทำผมนั่นเอง

ในระหว่างที่แช่น้ำอุ่น การเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผมด้วยการใช้ hair oil หรือ hair cream ก็สำคัญ และการใช้สเปรย์หรือครีมป้องกันรังสียูวีสำหรับเส้นผมเป็นประจำก่อนออกจากบ้านนั้นนอกจากจะช่วยป้องกันรังสียูวีและผมแห้งแล้วก็ยังช่วยยืดเวลาประสิทธิภาพของการทำทรีทเม้นต์ให้นานขึ้นได้อีกด้วย

Related TIPS

  1. จะแน่ใจได้อย่างไรว่าหนังศีรษะส…

  2. ผลกระทบจากความเครียดที่มีต่อเส…

  3. ดูแลเส้นผมด้วยการรักษาความชุ่ม…